เกมไหน? มาเน่ ชี้จุดเปลี่ยนพาลิเวอร์พูลสุดโหด

ซาดิโอ มาเน่ ปีกคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าการที่ทีมของตนแพ้ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาล 2017-18 เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ “หงส์แดง” กลายเป็นยอดทีมเหมือนอย่างในทุกวันนี้

    ในซีซั่นดังกล่าวหลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสดีที่จะได้ถ้วย “บิ๊กเอียร์” ไปครอง หลังจากแนวรุกของพวกเขาที่นำโดย มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำผลงานได้โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ในนัดชิงดำ ลิเวอร์พูล ก็ต้องแพ้ เรอัล 1-3 โดยที่มันมีชอตสำคัญหลายจังหวะที่ไม่เป็นใจกับ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นการที่ ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 31 และการที่ ลอริส คาริอุส นายทวาร ลิเวอร์พูล เล่นพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู

ถึงกระนั้น ในฤดูกาล 2018-19 ลิเวอร์พูล ก็ลบล้างความผิดหวังด้วยการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองได้ แถมยังเกือบเป็นแชมป์ลีกด้วย โดยแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเพียง 1 คะแนน และในซีซั่นนี้ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดจนกำลังมีโอกาสสูงที่จะได้แชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

    มาเน่ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรก่อนเกมที่ต้นสังกัดจะชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมาว่า “แน่นอนว่าเราประสบความสำเร็จหลายอย่าง และเราก็อยากประสบความสำเร็จมากกว่านี้ รวมถึงได้แชมป์รายการใหญ่ๆ ร่วมกับสโมสรแห่งนี้มากกว่านี้อีก เราอยากได้แชมป์หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และการได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง ซึ่งเราต่างก็ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ”

    “อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแล้วน่ะ มันก็จะเห็นกันว่าทุกกอย่างมันเป็นไปได้, เราสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ มาครองได้ และเราก็สามารถทำอย่างนั้นได้อีกครั้ง เราก็แค่ต้องมีความกระหายในทางที่ดี และเดินหน้าต่อไปจนถึงท้ายที่สุดก็เท่านั้น”

    “พอเราแพ้นัดชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด แล้วน่ะ ผมก็คิดว่าหลังจากนั้นทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเราก็บอกกับตัวเองว่า -มันเป็นไปได้- เรายังมีทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะวัยหนุ่มด้วย ผมคิดว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเลย เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น เราบอกกับตัวเองว่า -ทุกอย่างมันเป็นไปได้ ทำไมถึงไม่ลองพยายามกันล่ะ ? เราต่างก็อยากได้แชมป์รายการต่างๆ ดังนั้นทำไมเราถึงไม่มาพยายามทำด้วยกันล่ะ ?- ผมคิดว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดีเลย”

x