“ปืน” แม่นโทษเฉือน “หงส์” 5-4 (1-1) ซิวแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์

.

ฟุตบอลเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2020 คู่ระหว่าง อาร์เซนอล แชมป์เอฟเอ คัพ พบกับ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลล่าสุด

ทางฝั่งไอ้ปืนใหญ่ของ มิเกล อาร์เตต้า ขาดตัวหลักหลายตำแหน่งในเกมนี้ทั้ง วิลเลียน, อเลซองดร์ ลากาแซตต์, ลูคัส ตอร์เรรา รวมไปถึง นิโกลาส์ เปเป้ โดยเกมรุกเป็นสามประสาน , บูกาโย ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นคีเทียห์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง

มาที่ ลิเวอร์พูล ค่อนข้างฟูลทีมมากกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ยืนจับคู่ โจ โกเมซ แนวรุกสามประสานตัวเก่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน

ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 6 จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แอนดริว โรเบิร์ตสัน เปิดบอลไปหน้าปากประตูให้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ชาร์จเข้าประตูแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยัง 0-0

Goal! ปืนใหญ่ได้ประตูขึ้นนำนาที 12 จากจังหวะที่ บูกาโย ซาก้า ได้บอลบุกมาทางกราบซ้ายก่อนโยนข้ามไปทางขวาให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เลี้ยงจี้เข้าหา เนโก วิลเลียมส์ ก่อนปั่นด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองสุดสวย อาร์เซนอล ออกนำ 1-0 พร้อมทำท่าดีใจของ Black Panther เพื่ออุทิศให้การจากไปของ แชดวิก โบสแมน

อาร์เซนอล เกือบได้ประตูที่สองนาที 17 จากจังหวะตัดบอลกลางสนาม กรานิต ชาก้า พาบอลมาก่อนไหลให้ บูกาโย ซาก้า ที่กราบขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เอ็ดดี้ เอ็นคีเทียห์ ได้ยิงด้วยขวา แต่ อลิสซอน ล้มตัวปัดออกไปได้

เกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลได้ลุ้นนาที 50 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ลากบอลมาหน้าเขตโทษก่อนปั่นด้วยขวา บอลโค้งไม่พอหลุดเสาสองออกไป

ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้งนาที 55 แอนดริว โรเบิร์ตสัน วางบอลจากแดนตัวเองมาให้ ซาดิโอ มาเน ได้บอลเข้ามาในเขตโทษก่อนได้ยิงจ่อ ๆ แต่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ออกมาปิดมุมเซฟไว้ได้

Goal! ลิเวอร์พูลได้ประตูตีเสมอนาที 73 จากจังหวะที่ ทาคูมิ มินามิโนะ พยายามจะชิ่งกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเขตโทษ บอลไปโดน ซาลาห์ ก่อนมากระดอนใส่ เซดริก โซอาเรส กลับมาเข้าทาง มินามิโน ยิงผ่านมือ มาร์ติเนซ เข้าประตู ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 และเป็นประตูแรกของเขากับลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล พลาดประตูแซงนำนาที 81 จากจังหวะที่ แอนดริว โรเบิร์ตสัน เปิดบอลจากสุดเส้นหลัง บอลมาตกที่ ซาดิโอ มาเน ใช้เข่าแต่งบอลห่างตัวแต่ยังตามไปจิ้มด้วยขวา แต่ มาร์ติเนซ ก็ออกมาบล็อคได้เยี่ยมอีกครั้ง

จบ 90 นาที สกอร์เสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องมีการยิงจุดโทษตัดสินซึ่งผลปรากฎว่า อาร์เซนอล แม่นกว่าเอาชนะไป 5-4 คว้าแชมป์ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2020 ไปครอง

.

.

.

.

.