หงส์คืนฟอร์มบุกเชือดไก่คารัง 3-1

.

พรีเมียร์ลีก 2020-2021 คู่บิ๊กแมตช์ส่งท้ายสัปดาห์ที่ 20 เป็นการพบกันระหว่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เปิดรังเหย้า ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

โชเซ มูรินโญ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-43 ด้วยการใข้สามประสานในแผงเกมรุกแดนหน้าเป็น สตีเฟน เบิร์กไวน์, แฮร์รี เคน และ ซน ฮึง-มิน

ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้แนวรุกเป็นสามประสาน SMF ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน

เริ่มเกมเพียงแค่ 4 นาที เป็นฝั่งของสเปอร์สชวดได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ เคน จ่ายทะลุช่องให้ ซน ฮึง-มิน หลุดไปยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ทว่าเมื่อผู้ตัดสินเช็คกับทีมงาน VAR ก็พบว่า ซน ฮึง-มิน ล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะก่อนหน้าที่วิ่งมารับลูกจ่ายของ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล แล้วแปะต่อให้ เคน จ่ายทะลุช่องมาให้เขาแล้ว

ครึ่งแรกกำลังจะจบลงด้วยผลเสมออยู่แล้ว ทว่าในช่วงทดเวลานาทีที่ 45+4 กลายเป็นลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ มาเน จ่ายบอลตรงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายหักเข้ากลางให้ ฟีร์มิโน แปด้วยขวาระยะเผาขนไม่เหลือ ส่งให้หงส์แดงบุกนำ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มมาเพียงแค่นาทีที่ 47 แชมป์เก่าก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ มาเน ซัดด้วยขวาในเขตโทษไปติดเซฟ ฮูโก้ โญริส มาเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซ้ำดาบสองด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ช่วยให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 2-0

ทว่าถัดมานาทีที่ 49 สเปอร์สก็มาได้ประตูตีไข่แตกทันควัน จากจังหวะที่ เบิร์กไวน์ ไหลบอลย้อนมาเขตโทษให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ ซัดด้วยขวาติดไซด์ก้อยพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงาม ทำให้ไก่เดือยทองไล่มาเป็น 1-2

ต่อมานาทีที่ 59 ลิเวอร์พูลชวดได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ มาเน ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายตุงตาข่าย ทำให้เมื่อผู้ตัดสินไปดูจอ VAR ข้างสนามก็พบว่ามีจังหวะก่อนหน้าที่บอลไปโดนแขนของ ฟีร์มิโน จึงทำให้เป่าฟาวล์เป็นการแฮนด์บอลไป

กระทั่งนาทีที่ 65 หงส์แดงก็มาทำประตูที่สามจนได้ จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษแล้ว โจ โรดอน กะจังหวะสกัดไม่ดีทำให้ลูกกระดอนเลยไปถึง มาเน ยิงด้วยซ้ายแสกหน้า โยริส อย่างเด็ดขาด ส่งให้แชมป์เก่าหนีห่างเป็น 3-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลบุกมาชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 37 แต้ม ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 พร้อมหยุดสถิติไม่ชนะ 5 เกมติดต่อกันก่อนหน้านี้ลงได้แล้ว ส่วนท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์อยู่อันดับ 6 ยังมี 33 แต้มเท่าเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (3-4-3) : อูโก้ โยริส; โจ โรดอน, เอริค ไดเออร์, เบน เดวีส; แซร์ช ออริเยร์ (แฮร์รี วิงส์ น.46), ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้; สตีเฟน เบิร์กไวน์ (แกเร็ธ เบล น.81), แฮร์รี เคน (เอริค ลาเมลา น.46), ซน ฮึง-มิน

สำรองไม่ได้ใช้ : โทบี อัลเดอร์แวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, โจ ฮาร์ท, มุสซา ซิสโซโก้, ลูคัส มูรา, คาร์ลอส วินิซิอุส

ใบเหลือง – สตีเฟน เบิร์กไวน์ น.30

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โยเอล มาติป (นาธาเนียล ฟิลลิปส์ น.46), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; จอร์จินิโย ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลคันทารา (เคอร์ติส โจนส์ น.78), เจมส์ มิลเนอร์; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน (ดีว็อก โอริกี้ น.87), ซาดิโอ มาเน

สำรองไม่ได้ใช้ : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ทาคุมิ มินามิโนะ, คอสตาส ซิมิคาส, เซอร์ดาน ชากิรี, รีส วิลเลียมส์, ควีวีน เคลเลเฮอร์

ใบเหลือง – ติอาโก้ อัลคันทารา น.24, นาธาเนียล ฟิลลิปส์ น.50

บรรยายเกมจาก: Goal

.


.

x