ซาลาห์เบิ้ล! หงส์ บุกทุบ ขุนค้อน 3-1 ขึ้นที่ 3
.
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 นัดที่ 21 คู่ระหว่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อันดับ 5 เปิดสนามลอนดอน สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล อันดับ 4
ขุนค้อน ของ เดวิด มอยส์ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีไม่แพ้ใครในลีกมา 6 เกมติดต่อกัน เกมนี้จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดยแผงแนวรุกอย่าง จาร์รอด โบเวน , ปาโบล ฟอร์นัลส์ , ซาอิด เบนราห์มาทำเกมให้ มิชาอิล อันโตนิโอ หัวหอก
ฝั่ง หงส์แดง เพิ่งคืนฟอร์มอัด สเปอร์ส มา 3-1 เกมนี้ เยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือขาดผู้เล่นตัวหลักหลายคนจากอาการบาดเจ็บ โดยวางหมากมาในระบบ 4-3-3 เช่นเคย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่ลงเล่นในลีกในสีเสื้อลิเวอร์พูล 286 นัดเป็นอันดับที่ 4 ของสโมสรยืนคุมแนวรับ ขณะที่แนวรุกให้โอกาส เซอร์ดาน ชากิรี และ ดิว็อค โอริกี ประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
เกมครึ่งแรกเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าโหมบุกตั้งแต่ช่วงต้นเกม ขณะที่เจ้าถิ่นมีโอกาสตอบโต้เล็กน้อยแต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 45 นาที เวสต์แฮม เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 54 ทีมเยอืนได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โขกในเขตโทษแต่บอลเบาเข้าซอง ฟาเบียนสกี้
นาทีที่ 57 หงส์แดงมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่เพิ่งลงมาแทน เจมส์ มิลเนอร์ แค่ 34 วินาที จ่ายบอลให้ ซาลาห์ ในเขตโทษก่อนล็อคหนีแนวรับเจ้าบ้านและปั่นด้วยซ้ายเข้าไปดื้อ ๆ ลิเวอร์พูลนำ 1-0
นาทีที่ 68 เรด แมชชีน มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับ อาร์โนลด์ วางบอลยาวข้ามแดนออกไปทางซ้ายให้ที่ เซอร์ดาน ชากิรี ก่อนจะเปิดด้วยซ้ายจังหวะเดียวให้ โม ซาลาห์ ดูดบอลลงในเขตโทษและดีดหนีมือ ฟาเบียนสกี้ เข้าไป
นาทีที่ 84 เดอะ เรดส์มาได้ประตุฉีกหนีเป็น 3-0 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัวสำรองตอกส้นชิ่งให้ โรแบร์โต ฟีร์มิโน อีกหนึ่งตัวสำรองหลุดเข้าไปจ่ายบอลให้ ไวจ์นัลดุม ยิงง่ายๆ
3 นาทีถัดมาขุนค้อนได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุมบอลเลยมากลางประตูถึง เคร็ก ดอวสัน กองหลังได้สอดเข้ามาแปเข้าไป เวสต์แฮมไล่มา 1-3
จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 21 นัด มี 40 คะแนน ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ส่วน เดอะ แฮมเมอร์ส แข่ง 21 นัด มี 35 คะแนน รั้งอันดับ 5
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (GK) , อารอน เครสส์เวลล์ , วลาดิเมียร์ คูฟัล , เคร็ก ดอว์สัน , อันเจโล อ็อกบอนนา , เดแคลน ไรซ์ (C) ,โทมัส ซูเซ็ค , จาร์รอด โบเวน , ปาโบล ฟอร์นัลส์ (อังเดรย์ ยาร์โมเลนโก น.62), ซาอิด เบนราห์มา , มิชาอิล อันโตนิโอ
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน (GK) , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , นาธาเนียล ฟิลลิปส์ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (C) , แอนดี โรเบิร์ตสัน , จอจินิโอ ไวจ์นัลดุม , เจมส์ มิลเนอร์ (เตอร์ติส โจนส์ น.57) , เซอร์ดาน ชากิรี (โรแบร์โต ฟีร์มิโน น.69) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ดิว็อค โอริกี
.
.
.
.