“เฮนเดอร์สัน” ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเอ็มบีอี
.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น MBE สำหรับการทำงานเพื่อการกุศล
เฮนเดอร์สัน ได้รับการเห็นคุณค่าสำหรับการทำงาน และการมีส่วนร่วมของเขาตลอดช่วงเวลาการระบาดของไวรัสโคโรน่า ในเดือนเมษายน ปี 2020 ร่วมถึงเป็นผู้ก่อตั้งของโครงการ ‘Players Together’ ซึ่งสนับสนุนให้นักฟุตบอลอาชีพระดมเงินให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุข (NHS)
หลังจากนั้นเขาได้กลายมาเป็นทูตสำหรับองค์กร NHS Charities Together, ซึ่งให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่, ผู้ป่วย และอาสาสมัครของหน่วยงานด้านสาธารณสุข 240 แห่งในสหราชอาณาจักร
ขณะที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้, เฮนเดอร์สันได้ให้การสนับสนุนแคมเปญการต่อต้านการบูลลี่ในโลกไซเบอร์ของมูลนิธิ Cybersmile ‘People Not Profiles’ ด้วยการมอบการควบคุมบัญชีโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ของเขาให้แก่องค์กรดังกล่าวเพื่อเพิ่มความตระหนักของผลกระทบจากการโดนทำร้ายบนโลกออนไลน์
.
.
จากการพูดคุยเกี่ยวกับการได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น MBE เฮนเดอร์สันกล่าวว่า “ครอบครัวของผม และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากกับการได้รับการเห็นคุณค่าในแบบนี้ มากกว่ากรให้เหตุผลอื่นๆ สำหรับมัน มีสิทธิพิเศษมากมายที่มาจากการเล่นฟุตบอลอาชีพ แต่การมีแพลตฟอร์มเพื่อจะส่งเสริมงานทางด้านการกุศล เช่น Player Together และ NHS Charities Together ถือเป็นสิทธิพิเศษมากกว่าสิ่งอื่นๆ
มันสำคัญสำหรับผมกับการบอกว่าถึงแม้การได้รับเกียรตินี้จะมอบให้กับผมเป็นการส่วนตัว แต่ต้องมอบเครดิตไปยังกลุ่มคนในวงกว้างกว่านี้ และผมยอมรับสิ่งนี้ในความเข้าใจที่ว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่พิเศษ แทนที่จะเป็นเหตุผลสำหรับมัน
กัปตันทีมพรีเมียร์ลีกคนอื่นๆ มีความสำคัญในการช่วยกระตุ้น และผู้เล่นที่เหลือ รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมของผมเองที่ลิเวอร์พูล, เป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังฉาก แฟนฟุตบอลจำนวนมากจากทั่วประเทศเองก็แสดงให้เห็นถึงความเอื้อเฟื้ออย่างมากในการระดมทุนเช่นกัน
แต่ฮีโร่ที่แท้จริงคือเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุข; พวกเขาได้นำตัวของพวกเขาเองไปอยู่ในความเสี่ยงเพื่อให้ความช่วยเหลือ และปกป้องพวกเรา
ดังนั้นผมจึงอุทิศสิ่งนี้ให้แก่นางพยาบาล, คุณหมอ, ผู้ดูแลคนป่วย, พนักงานเปิดประตู, เจ้าหน้าที่ธุรการ, พนักงานทำความสะอาด, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และทุกๆ คนซึ่งเสียสละการงาน และชีวิตของพวกเขากับการทำให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของชาวอังกฤษที่เราทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่สุดจริงๆ”
.
.
.