“ลิเวอร์พูล” เปิดรังเจ๊า “เชลซี” 10 คน 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก

.

พรีเมียร์ลีกนัดที่สามของฤดูกาล 2021/22 เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ที่เก็บ 6 คะแนนเต็ม เกมนี้ ได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมายืนตัวจริง เช่นเดียวกับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แนวรุกใช้ ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ทางฝั่ง เชลซี ที่ชนะสองเกมรวดเช่นกัน ยังคงยึดชุดแกร่ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยืนสามแนวรับ คู่กลาง จอร์จินโญ คู่ ก็องเต้ แนวรุก เมสัน เมาท์ ทำเกมร่วมกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยใช้ โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า

ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนนาทีที่ 3 จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตัดบอลจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ มาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชิ่งคืนให้ เอลเลียตต์ ได้ยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น

Goal! ทีมเยือนได้ประตูออกนำนาที 22 จากลูกเตะมุม รีซ เจมส์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามา ไค ฮาแวร์ตซ์ สอดมาโขกเสาแรก บอลย้อยเสียบเสาไกลสุดสวย เชลซี ออกนำ 1-0

เจ้าบ้านแก้เกมเร็วตั้งแต่ 40 นาทีแรกด้วยการส่ง ดิโอโก โจต้า ลงสนามมาแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน

Goal! เจ้าถิ่นได้จุดโทษนาที 45+3 จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ พยายามกางแขนปัดบอลที่กำลังจะข้ามเส้นประตู ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนชี้เป็นจุดโทษพร้อมใบแดง ก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารไม่พลาด ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง เชลซี เปลี่ยนสองตำแหน่งถอด เอ็นโกโล ก็องเต้ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกและส่ง ติอาโก้ ซิลวา และ มาเตโอ โควาซิช ลงสนามมาแทน

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ที่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นครองเกมโหมบุกใส่เชลซีอย่างหนัก และมีโอกาสจบสกอร์หลายหนแต่ทว่าก็ยังไม่ผ่านมือของ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ป้องกันไว้ได้หมด

ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน แต่ไม่มีการทำประตูเพิ่มก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 1-1

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน; ฟาบินโญ, เอลเลียตต์, เฮนเดอร์สัน, ซาลาห์, ฟีร์มิโน, มาเน

ตัวสำรอง : เคลเลเฮอร์, โคนาเต้, ติอาโก้, โกเมซ, อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน, โจต้า, มินามิโนะ, ชิมิคาส, เกอิต้า

เชลซี (3-4-3) : เ มนดี้; อัซปิลิกวยต้า, คริสเตนเซ่น, รูดิเกอร์; เจมส์, จอร์จินโญ, ก็องเต้, อลอนโซ; เมาท์, ฮาแวร์ตซ์, ลูกากู

ตัวสำรอง : เกปา (GK), ชิลเว

.

.

.

x