นูนเญซโขกปิดท้าย! “หงส์” อัด “เรือ” 3-1 คว้าคอมมิวนิตี้ชิลด์

.

ฟุตบอลคอมมิวนิตี้ ชิลด์
ลิเวอร์พูล 3-1 แมนฯ ซิตี้
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ลิเวอร์พูล ยังให้ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าคนใหม่เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง โดยแนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ หลุยส์ ดิอาซ ออกสตาร์ท

ด้าน แมนฯ ซิตี้ ส่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าใหม่ลงตัวจริงทันที ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ คอยปั้นเกมแดนกลาง รูเบน ดิอาส รับหน้าที่กัปตันทีม

เริ่มเกมมาแค่ 3 นาที ฟาบินโญ่ จ่ายบอลให้ ซาลาห์ เลี้ยงลุยตัดเข้าเขตโทษด้านขวาไปยิงด้วยซ้าย แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบไปเข้าตาข่ายด้านข้าง

นาทีที่ 8 เป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลุยมาตะบันด้วยซ้ายระยะ 18 หลา แต่บอลไปแฉลบเท้า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ พุ่งเข้าตาข่ายด้านข้าง

จากนั้นทั้งสองทีมก็เปิดเกมแลกกันสนุกเลย กระทั่งนาทีที่ 21 หงส์แดง มาออกนำ 1-0 เมื่อ ซาลาห์ ได้บอลทางกราบขวาแล้วไหลคืนสั้นๆ ให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งมายิงแบบเฉือนๆ บอลไปแฉลบหัว อาเก้ ให้มันโด่งหนีมือ เอแดร์ซอน ไปอีก ลูกเลยเข้าประตูไป

นาทีที่ 25 เรือใบ มีลุ้นทวงคืน เมื่อบอลจาก ริยาด มาห์เรซ ให้ เดอ บรอยน์ หลุดไปในเขตโทษทางขวาแล้วหลอกยิงที่เสาแรกทันที แต่บอลก็ไปเข้าตาข่ายด้านข้างแทน

ซิตี้ น่าเอาคืนได้เหลือเกินในนาทีที่ 34 จากจังหวะสวนกลับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ รับบอลโด่งมาแล้วลุยเข้าเขตโทษเบียด โรเบิร์ตสัน กระเด็นแล้วขืนตัวยิงด้วยซ้าย ทว่า อาเดรียน ยังเซฟไว้ได้ และจังหวะต่อเนื่อวง แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดจากกราบซ้ายให้ ฮาแลนด์ กระโดดชาร์จด้วยซ้าย แต่ก็โดนเหลี่ยมไม่ดี ลูกลอยโด่ง มาห์เรซ พยายามโหม่งก็ไปตรงตัว อาเดรียน

ช่วงที่เหลือของครึ่งแรก บอลก็อยู่ในการครอบครองของ ซิตี้ เกือบทั้งหมด และมีโอกาสเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ลงล็อกในจังหวะสุดท้าย หมด 45 นาทีแรกเป็น ลิเวอร์พูล นำอยู่ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นทันที เมื่อ โรดรี้ เอร์นานเดซ จ่ายทะลุไปให้ ริยาด มาห์เรซ หาเลี่ยมยิงด้วยซ้าย แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ อาเดรียน ที่เซฟได้เยี่ยม

แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนผู้เล่นรายใหม่อย่าง จูเลียน อัลวาเรซ ลงมาเช่นเดียวกับ ฟิล โฟเด้น โดยถอดเอา ริยาด มาห์เรซ และ แจ็ค กรีลิช ออกไป ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวใหม่ลงมาแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในนาทีที่ 59

หงส์แดง มีโอกาสทองที่จะหนีห่างในนาทีที่ 64 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไหลทะลุช่องให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเดี่ยวไปพยายามจะชิพให้ข้ามตัวผู้รักษาประตู แต่บอลไปติดหน้า เอแดร์ซอน ที่ออกมาปิดมุมได้เร็ว

นาทีที่ 70 แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ หยอดเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โฟเด้น สอดมากระโดดยิงทีแรกไปตรงตัว อาเดรียน ปัดออกมา นายทวารชาวสเปนพยายามตามไปตะครุบ แต่ โฟเด้น ก็ยังไปงัดไว้ทำให้ลูกกระดอนมาเข้าทาง อัลวาเรซ ยิงจ่อๆ ตุงตาข่ายไปเลย แม้ทีแรกไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้า ทว่าพอเช็กวีเออาร์แล้วก็ให้เป็นประตู

นาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษ เมื่อ ซาลาห์ เปิดจากด้านขวาไปเสาไกลให้ นูนเญซ โหม่งไปติดแขน รูเบน ดิอาส ที่ยื่นออกมา ทีแรกผู้ตัดสินปล่อยเกมเล่นต่อจนมีสัญญาณจึงออกไปดูจอวีเออาร์แล้วเป่าฟาวล์ ก่อนที่ ซาลาห์ จะรับหน้าที่สังหารเรียดเข้ามุมเสาขวามือ แม้ เอแดร์ซอน จะพุ่งถูกทางก็ไม่ถึง หงส์แดง นำ 2-1

หงส์แดง มีโอกาสที่จะได้เพิ่มในนาทีที่ 87 จากลูกเตะมุมสั้น เจมส์ มิลเนอร์ เปิดโค้งไปเข้าหัว นูนเญซ โหม่งสะบัดหลุดเสาไกลออกไป

นาทีถัดมายังเป็นโอกาสของ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง เมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ฉกบอลได้แล้วลุยมายิงเองด้วยซ้ายข้ามคานออกไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 7 นาที ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 94 หงส์แดง หนีห่าง 3-1 เมื่อตัดบอลจาก เรือใบ ได้ตรงกลางสนาม ซาลาห์ หยอดจากมุมเขตโทษด้านขวาลึกไปเสาไกลให้ โรเบิร์ตสัน สอดมาโหม่งตั้งเข้ากลางถึง ดาร์วิน นูนเญซ โน้มตัวโขกจ่อๆ ตุงตาข่าย

นาทีที่ 97 เรือใบ น่าได้ประตูเหลือเกิน เมื่อ ฟิล โฟเด้น ได้ซัดด้วยซ้ายบนเส้นเขตโทษไปติดเซฟ อาเดรียน ปัดออกมา ฮาแลนด์ ได้ซ้ำโล่งๆ คนเดียวระยะ 5 หลา ไปชนคานอย่างน่าเหลือเชื่อ จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 16

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อาเดรียน – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, หลุยส์ ดิอาซ

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, หลุยส์ ดิอาส, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

.

.

.

.

x