อโวนิยี่ยิงชัย! ฟอเรสต์ ดับ หงส์ 1-0หนีบ๊วย
.
ไทโว่ อโวนิยี่ กองหน้า ฟอเรสต์ คิดบัญชีแค้นแบบทดต้นทบดอกจากอดีตต้นสังกัด ลิเวอร์พูล ที่ด้อยโอกาสเขา เมื่อซัดประตูโทนให้น้องใหม่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หยามใส่อดีตแชมป์ปี 2020 ด้วยผล 1-0 จนปีนหนีบ๊วยสำเร็จ
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฟอเรสต์ 1-0 ลิเวอร์พูล
ผู้ทำประตู : 1-0 อโวนิยี่ น.55
สนาม : ซิตี้ กราวน์ด
สตีฟ คูเปอร์ ที่ไม่ชนะเกมลีกตั้งแต่ส.ค.จัดสองเด็กเก่า ‘หงส์แดง’ อย่าง เนโก วิลเลี่ยมส์ และ ไทโว่ อโวนิยี่ เป็น 11 ตัวจริง
ด้าน ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ขุมกำลังแดหน้าจำกัดต้องให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตำแหน่งคู่หน้า
ทีมเยือนลุ้นก่อนนาที 10 เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเตะมุมฝั่งขวาไปเข้าช่องระหว่างกองหลัง ‘เจ้าป่า’ แต่ ฟีร์มีโน่ โหม่งผ่านหน้าปากประตู
ผ่านถึงนาที 34 ลิเวอร์พูล มีปัญหาเมื่อ ซาลาห์ เจ็บหลังในจังหวะปะทะ ต้องออกไปดูอาการข้างสนาม แต่ก็ฝืนกลับมาสู้ต่อไหว จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
กลับมาเล่นนาที 55 เป็นเจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 ฟรีคิกจากเกือบกลางสนามสาดลึกไปริมกรอบฝั่งขวา สกอตต์ แม็คเคนน่า ดูดบอลลงพื้นปาดไปเสาแรก ไรอัน เยตส์ ยิงก่อนติดเซฟไม่พ้นอันตราย อโวนิยี่ ซ้ำจ่อๆไม่เหลือซาก
นับเป็นการสังหารประตูใส่อดีตต้นสังกัดสำหรับ ไทโว่ ทั้งที่ไม่เคยเดบิวต์ระดับซีเนียร์แก่ ‘หงส์แดง’ มาก่อน
ท้ายเกมทีมเยือนโหมหนักนาที 85 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายครอสถึงเสาไกล เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตัวสำรองเติมมาโขกเหน่งๆไม่ผ่านซูเปอร์เซฟ ดีน เฮนเดอร์สัน ทางดาบสอง ซาลาห์ ซ้ำหลุดกรอบ
จากนั้นนาทีเดียว ฟอเรสต์ ตอบโต้เมื่อตัดบอลกลางสนาม กิ้บบ์ส-ไวท์ แทงทะลุช่องให้ เยตส์ วิ่งเลี้ยงไลน์ล้ำหน้าไปล่อเป้าแต่ยังถูก อาลีสซง ปฏิเสธ
ทดเจ็บนาที 90+3 จังหวะลุ้นตีเสมอของ ลิเวอร์พูล เตะมุมบอลครอสจากฝั่งซ้ายมาแถวจุดโทษ ฟาน ไดค์ ขึ้นมาโขกเหน่งๆกระดอนพื้นแต่ ‘ดีโน่’ ควักจากเส้น จากนั้นกองหลังสกัดก่อนตัวซ้ำเข้าถึง
จบแมตช์ ฟอเรสต์ คว้าสามแต้มสำคัญแซง เลสเตอร์ มาอยู่ที่ 19 ส่วน ลิเวอร์พูล แน่นิ่งอยู่ที่ 7 แถมต้องติดตามปัญหาผู้เล่นเดี้ยงอีกบาน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟอเรสต์ : ดีน เฮนเดอร์สัน – แซร์ช โอริเย่ร์, สตีฟ คุ๊ก, สกอตต์ แม็คเคนน่า, เนโก วิลเลี่ยมส์ – ไรอัน เยตส์, เรโม ฟรอยเลอร์, ชีกู กูยาเต้ – มอร์แกน กิ้บบ์ส-ไวท์, ไทโว่ อโวนิยี่, เจสซี่ ลินการ์ด
ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เจมส์ มิลเนอร์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ – โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่,โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์
.
.
.
