“ฮาแลนด์” เปิดหัวเรือเชือด “หงส์” 3-2 ลิ่วบาวคัพ

.

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายคาราบาว คัพ หลังเปิดรังเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ในเกมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ฟุตบอลคาราบาว คัพ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ลิเวอร์พูล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

คู่บิ๊กแมตช์คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ส่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ประจำการหน้าเป้าโดยมี เควิน เดอ บรอยน์ เป็นจอมทัพ ส่วน ลิเวอร์พูล นำมาโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ บาดเจ็บน่องทำให้พลาดช่วยทีม

เริ่มเกมมาไม่ถึงยี่สิบวินาที แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อนเลย อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หลุดถึงหน้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงด้วยซ้ายโดนไม่ดี บอลจึงหลุดเป้าหมายไปไกล

เรือใบเกือบได้อีกครั้งในนาทีที่ 6 เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ วิ่งฉีกมารับบอลทางฝั่งขวาก่อนถวายพานให้ โคล พัลเมอร์ วิ่งมายิงจ่อๆ แต่ว่าแปด้วยซ้ายผิดเหลี่ยมส่งบอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ

แมนฯ ซิตี้ นำจนได้ในนาทีที่ 10 เดอ บรอยน์ ออกมาเล่นฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้าเขตโทษ ฮาแลนด์ วิ่งโฉบตัดหน้า โจ โกเมซ ก่อนทิ่มบอลเข้าเสาแรกอย่างเด็ดขาด

หงส์แดงตามตีเสมอได้ในนาที 20 เจมส์ มิลเนอร์ เติมเกมรุกเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ยืนยิงด้วยขวาไม่มีคนประกบจากระยะ 12 หลาเข้าไปไม่พลาด สกอร์กลับมาเป็น 1-1

นาที 36 แมนฯ ซิตี้ เกือบนำอีกครั้ง เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นทางขวาก่อนเลือกจ่ายไปให้ อิลคาย กุนโดกัน แปซ้ายเน้นๆ ทว่า ควีวีน เคลเลเฮอร์ ใช้ขาเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด

ไม่กี่อึดใจถัดมา เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากขวาให้ นาธาน อาเก้ ทิ้งตัวโหม่งจ่อๆ ทว่า ควีวีน เคลเลเฮอร์ ซูเปอร์เซฟปัดบอลออกหลังช่วย ลิเวอร์พูล เอาไว้ได้อีกครั้ง

หงส์แดงต้องเปลี่ยนคนแรกเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว แนท ฟิลลิปส์ จึงได้ลงเล่นแทนพร้อมกับโยก โจ โกเมซ ไปเล่นแบ็กขวาแทน มิลเนอร์

ท้ายครึ่งแรก ดาร์วิน นูนเญซ มีโอกาสลุ้นยิงเน้นๆ ถึงสองครั้ง แต่ว่าซัดหลุดกรอบไปทั้งหมด จากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1

กลับมาลุยกันต่อในครึ่งหลังได้นาทีเศษ แมนฯ ซิตี้ นำอีกรอบเป็น 2-1 โรดรี้ ตักบอลลอยไปให้ ริยาด มาห์เรซ ดึงลงด้วยการแตะเข้าในทันทีก่อนปั่นด้วยซ้ายลูกถนัดส่งบอลเสียบเสาอย่างสุดยอด

แต่ ลิเวอร์พูล ตีเสมอได้เร็วอีกครั้งในนาทีถัดมา อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ตัวสำรองดีดบอลขนานเส้นทางซ้ายไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ ควบเข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ โม ซาลาห์ เคาะด้วยซ้ายง่ายๆ เข้าไปเป็น 2-2

นาที 58 แมนฯ ซิตี้ นำอีกรอบจากลูกเตะมุมลูกสูตร เดอ บรอยน์ เปิดจากฝั่งขวาให้ถึง นาธาน อาเก้ โหม่งเน้นๆ หนีมือ ควีวีน เคลเลเฮอร์ เข้าไปทำให้เรือใบสีฟ้านำ 3-2

ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสตีเสมอในนาที 72 โจ โกเมซ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเดี่ยวขึ้นทางขวาก่อนทะลุเข้าเขตโทษแล้วยิงเน้นๆ ด้วยขวา ทว่าเหมือนเดิมซัดหลุดกรอบอีกตามเคย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกม แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ทำให้กลายเป็นทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : สเตฟาน ออร์เตก้า – ริโก้ ลูอิส, มานูเอล อคานจี, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, นาธาน อาเก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาแลนด์, โคล พัลเมอร์

ลิเวอร์พูล : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – เจมส์ มิลเนอร์, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, สเตฟาน บายเซติช, ติอาโก้ อัลกันตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

ผู้ตัดสิน : เดวิด คูต

.

x