ฟาสฝันร้าย! ยิงตัวเอง 2 ลูกช่วยหงส์แซงดับเลสเตอร์ 2-1
.
ค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำของ เวาท์ ฟาส เมื่อยิงเข้าประตูตัวเองถึงสองลูก จนทำให้ลิเวอร์พูลพลิกแซงชนะเลสเตอร์ ซิตี้
.
.
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022-2023 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 18 เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังเหย้า แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ด้านทีมเยือนของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น แพ็ตสัน ดาก้า ทำเกมรุกร่วมกับ อโยเซ เปเรซ, เคียร์แนน ดูว์สบิวรี-ฮอลล์ และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์
เริ่มเกมเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของเลสเตอร์มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เคียร์แนน ดูว์สบิวรี-ฮอลล์ เลี้ยงแหวกช่องว่างในแนวรับของลิเวอร์พูลแล้วหลุดเดี่ยวไปยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ส่งให้จิ้งจอกสยามบุกนำ 1-0
ทว่าทีมเยือนต้องใช้โควตาเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ตั้งแต่นาทีที่ 15 เมื่อทาง แพ็ตสัน ดาก้า มีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุกจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่งกองหน้าตัวเก๋าอย่าง เจมี วาร์ดี้ ลงมาแทน
กระทั่งนาทีที่ 38 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอแบบไม่ต้องยิงเอง จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษไปโดน เวาท์ ฟาส เตะสกัดด้วยซ้ายผิดเหลี่ยมย้อยข้ามหัส แดนนี วอร์ด เช็ดเสาไกลเข้าประตูตัวเองไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ต่อเนื่องด้วยนาทีที่ 45 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูแซงนำแบบไม่ได้ยิงเองเหมือนเดิม จากจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ยิงไปด้วยซ้ายไปชนเสาแล้วบอลกระดอนมาโดน เวาท์ ฟาส เข้าประตูตัวเองไปแบบโชคร้าย และเป็นการทำเข้าประตูตัวเองครั้งที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยสงเคราะห์ให้หงส์แดงพลิกขึ้นนำ 2-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนน รั้งอันดับ 6 ส่วนเลสเตอร์ ซิตี้อยู่อันดับ 13 ยังมี 17 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (โจ โกเมซ น.86), โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิคาส น.62); ติอาโก้ อัลคันทารา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (สเตฟาน บายเซติช น.86); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (นาบี เกอิต้า น.62)
สำรองไม่ได้ใช้ : อิบราฮิมา โกนาเต้, อาเดรียน, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ, บ็อบบี้ คลาร์ก, เบน โด๊ก
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แดนนี วอร์ด; ทิโมธี กาสตาญ, แดเนียล อมาร์ตีย์, เวาท์ ฟาส, ลุค โธมัส; วิลเฟรด เอ็นดีดี้ (ยูริ ตีเลอมันส์ น.59), บูบาการี ซูมาเร; อโยเซ เปเรซ (เคเลชี อิเฮียนาโช น.71), เคียร์แนน ดูว์สบิวรี-ฮอลล์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์; แพ็ตสัน ดาก้า (เจมี วาร์ดี้ น.15)
สำรองไม่ได้ใช้ : ชาลาร์ โซยุนจู, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, น็อมปาลีส เมนดี้, ดาเนียล อิเวอร์เซน, ลูอิส บรันท์
ใบเหลือง – บูบาการี ซูมาเร น.67
.