บิลลิ่งซัดโทน! บอร์นมัธ เฉือน ลิเวอร์พูล 1-0

.

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
บอร์นมัธ 1-0 ลิเวอร์พูล
ผู้ทำประตู : 1-0 บิลลิ่ง น.28
สนาม : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

เฮดโค้ช แกรี่ โอนีล ของเจ้าถิ่นปรับมาเล่นแผงกองหลัง 4 คน ท้าสู้โจทก์ที่เล่นกันมา 9 เม็ดเมื่อต้นซีซั่น แบบมี โดมินิค โซลันกี้ อดีตผู้เล่น ‘หงส์แดง’ ค้ำหอก

ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสทีมเยือนเลือกชุดเก่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ สามประสานแดนหน้า

‘เชอร์รี่ส์’ ดักทาง ลิเวอร์พูล ที่แผงหลังลอยสูงถึงครึ่งสนามด้วยการโต้กลับจุกๆหลายครั้ง จนนาที 28 ขึ้นนำ 1-0 บอลสาดขึ้นหน้าไปวัดทางขวา ด็องโก้ วาตตาร่า อาศัยความถึก ความเร็ว ควบตามไปกระชากถึงสุดเส้นแล้วตบกลับมาให้ ฟิลิป บิลลิ่ง แปแค่ 4 หลาตุงตาข่าย

มีการเช็ควีเออาร์เพื่อความแน่นอนซึ่งก็ขาวสะอาดจังหวะเข้าทำไม่ล้ำหน้า จบครึ่งแรกผลนี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง ดิโอโก้ โชต้า คือตัวสำรองคนแรกที่ ลิเวอร์พูล ส่งลงสนาม แล้วลุ้นประตูตีเสมอนาที 49 เมื่อส่องไกลเน้นหน้ากรอบๆติดเซฟปัดออกหลัง

ทีมเยือนได้จุดโทษนาที 68 เจมส์ มิลเนอร์ ตัวสำรองครอสจากสุดเส้นฝั่งขวาถึงเสาไกล โชต้า โดดโหม่งติดมือ อดัม สมิธ ออกหลัง เมื่อเช็ควีเออาร์ชัดเจนว่าแฮนด์บอล

มือสังหาร ซาลาห์ ก้าวไปส่องเท้าซ้ายเต็มแรงลูกหลุดเสาแบบน่าเจ็บใจ นับเป็นครั้งที่ซัดจุดโทษบนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่เข้ากรอบ

จากนั้น บอร์นมัธ ลงไปจอดบัสผู้เล่นเอาต์ฟิลด์ 10 คนในแดนตัวเอง ส่วน ลิเวอร์พูล ไร้ไอเดียเจาะ สิ้นเสียงนกหวีด เจ้าถิ่นคว้าชัย 1-0

สามแต้มสำคัญทำให้ ‘เชอร์รี่ส์’ หนีโซนตกชั้นไปอยู่ที่ 16 ชั่วคราว ส่วน ‘หงส์แดง’ นิ่งอยู่อันดับ 5 แบบมีโอกาสโดนแซง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บอร์นมัธ : เนโต้ – อดัม สมิธ, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มาร์กอส เซเนซี่, ลอยด์ เคลลี่ – ด็องโก้ วาตตาร่า, เจฟเฟร์สัน เลร์มา, ฟิลิป บิลลิ่ง, เจดอน แอนโธนี่ – โยเซปห์ ร็อธเวลล์ – โดมินิค โซลันกี้

ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ

ผู้ตัดสิน : จอห์น บรู้กส์

.

.

x