นำก่อนไม่ช่วย! เรือโหดแซงถล่มหงส์ 4-1 จี้ปืน 5 แต้ม

.

พรีเมียร์ลีก 2022-2023 คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์เปิดหัวโปรแกรมประจำสัปดาห์ที่ 29 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-2-4-1 ใช้หน้าเป้าเป็น ฮูเลียน อัลวาเรซ ลงเล่นแทน เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งบาดเจ็บไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง

ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โกดี้ คักโป และ ดิโอโก้ โชต้า

เริ่มเกมได้ 17 นาที เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดิโอโก้ โชต้า ลากหลุดไปแล้วพลิกกลับหลังมาตั้งบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ อย่างเด็ดขาด ส่งให้หงส์แดงบุกนำ 1-0

แต่แล้วนาทีที่ 27 ซิตี้ก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ แจ็ค กรีลิช ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ โฉบมาชาร์จด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลนี้

ครึ่งหลังกลายเป็นเรือใบสีฟ้ามาได้ประตูพลิกขึ้นนำ ในนาทีที่ 46 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ไหลบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ แปด้วยซ้ายระยะเผาขนตุงตาข่าย ช่วยให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1

ถัดมานาทีที่ 53 ซิตี้มาบวกลูกสามเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษไปติดบล็อค เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน จับแล้วแปด้วยขวาอย่างเฉียบคม ส่งให้แชมป์เก่าหนีห่างเป็น 3-1

ต่อเนื่องด้วยนาทีที่ 74 เรือใบสีฟ้ามาได้ประตูที่สี่เพิ่มเติมอีก จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ แจ็ค กรีลิช แปด้วยขวาไม่เหลือ ช่วยให้เจ้าบ้านนำห่าง 4-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ชนะไป 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนน ไล่จี้อาร์เซนอลซึ่งจะลงเตะในช่วง 21.00 น. เข้าไปเหลือ 5 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูลอยู่อันดับ 6 ยังมี 42 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน; มานูเอล อคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้; จอห์น สโตนส์, โรดรี้ เอร์นานเดซ (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.83); ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, แจ็ค กรีลิช (โคล พาลเมอร์ น.89); ฮูเลียน อัลวาเรซ
สำรองไม่ได้ใช้ : ไคล์ วอล์คเกอร์, คัลวิน ฟิลลิปส์, อายเมอริค ลาปอร์กต์, สเตฟาน ออร์เตก้า, เซร์คิโอ โกเมซ, มักซิโม เปร์โรเน, ริโก้ ลูอิส
ใบเหลือง – โรดรี้ น.33

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิคาส น.70); ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.70), ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน; โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดาร์วิน นูนเญซ น.70), โกดี้ คักโป (เจมส์ มิลเนอร์ น.82), ดิโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน น.70)
สำรองไม่ได้ใช้ : โจ โกเมซ, อาร์ตูร์ เมโล, โฌแอล มาติป, ควีวีน เคลเลเฮอร์
ใบเหลือง – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.19

.

.

x