ที่นี่แอนฟิลด์!! หงส์ ไม่ยอมไล่เจ๊าปืนใหญ่ 2-2
.
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงสำรองมาโหม่งท้ายเกมให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ อาร์เซน่อล ที่แอนฟิลด์ อย่างสนุก 2-2 ขณะที่ในเกมมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พลาดจุดโทษด้วย
.
.
ลิเวอร์พูล 2-2 อาร์เซน่อล
“บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล อันดับ 8 เปิดรัง แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของจ่าฝูง อาร์เซน่อล
เจอร์เก้น คล็อปป์ พา “หงส์แดง” ไม่ชนะมา 4 เกมติดทุกรายการ ล่าสุดบุกไปเสมอ เชลซี 0-0 ทำให้มี 43 แต้ม หลังเล่นไป 28 เกม เกมนี้จัดสามแนวรุกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และโคดี้ กัคโป ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ มีชื่อเป็นสำรอง เช่นเดียวกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่หายเจ็บกลับมา
ส่วนทางจ่าฝูง “ปืนใหญ่” ฟอร์มยอดเยี่ยมเหลือเกิน ชนะในลีกมา 7 เกมติดต่อกัน ลงเล่น 29 นัด มี 72 คะแนน แต่เมื่อวานโดน แมนซิตี้ ที่แข่งเท่ากันไล่จี้มาเหลือ 5 คะแนนแล้ว
เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า หมายมั่นจะบุกมาเอาชนะให้ได้หลังสถิติสุดเลวร้ายซึ่งครั้งสุดท้ายที่บุกมาคว้าชัยในลีกที่แอนฟิลด์ต้องย้อนไปเมื่อปี 2012 สมัยที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทัพและมี มิเกล อาร์เตต้า เป็นกัปตันทีมในชุดนั้น โดยเกมนี้ยังไม่มี วิลเลี่ยม ซาลิบา และเอ็นดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ยังเจ็บ สามแนวรุกใช้ บูกาโย่ ซาก้า, กาเบียล เชซุส และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่
เปิดฉากครึ่งแรก มาไม่ถึงนาที ปืนใหญ่ โหมกดดัน มาร์ติเนลลี่ ลากถึงเส้นหลังก่อนปาดมาติดบล็อค ก่อนที่ ชาคา จะซ้ำตูมเดียวไปติด โกนาเต้ ออกหลังได้เตะมุม
นาที 6 “หงส์แดง”เจ้าบ้านได้โอกาสทักทายแรกบ้างหลัง โคดี้ กัคโป้ ลากตัดเข้าด้านในก่อนซัดด้วยขวาหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 8 กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่บุกมาขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ บอลขึ้นเกมจากแดนหลัง ไวท์ ให้ ซาก้า ลากขึ้นมาก่อนให้ โอเดการ์ด จ่ายทะลุช่องไปติด ฟาน ไดค์ ก่อนมาเข้าทาง มาร์ติเนลลี่ พาบอลแหวกเข้าไปจิ้มผ่าน อลีสซง ค่อยๆกลิ้งข้ามเส้นไป เป็นเม็ดที่ 14 ในพรีเมียร์ลีกของปีกทีมชาติบราซิล
เด็กๆ ของ อาร์เตต้า ยังบุกสนุก นาที 12 มาร์ติเนลลี่ ป่วนเกมทางด้านซ้ายก่อนบอลถึง ซินเชนโก้ วิ่งมาซัดแฉลบแข้งเจ้าบ้านหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
นาที 17 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีกบอลข้ามยาวจากซ้ายมาขวาถึง ซาก้า ลากเข้าไปก่อนเปิดด้วยซ้ายข้ามหัว มาร์ติเนลลี่ ถึง กาเบรียล เชซุส ที่พยายามเข้าชาร์จจากเสาไกลแต่บอลข้ามคานไป
นาทีที่ 20 “หงส์แดง” เกือบได้ลุ้นตีเสมอ ฟาบินโญ่ ตักบอลข้ามหัว เบน ไวท์ มาให้ โชต้า ลากเข้าไปซัดเสาแรกบอลถากเสาไกลออกหลัง
อีกสามนาทีต่อมา เบน ไวท์ ไปเข้าหนักเสียบใส่ โชต้า ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองแรกของเกม
นาที 28 “เดอะ ค็อป” ในแอนฟิลด์ต้องเงียบกันกริบ หลังปืนใหญ่ โจมตีอย่างหนักหน่วงและมาได้เม็ดที่ 2 จากจังหวะที่ มาร์ติเนลลี่ เปิดจากด้านซ้ายมาให้ กาเบรียล เชซุส ที่เทกตัวได้สูงโขกกดพื้นเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามให้ อาร์เซน่อล นำห่างหงส์แดง 2-0
ต่อมานาทีที่ 33 “หงส์แดง” พลาดโอกาสทอง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ดักตัดบอลได้ทางฝั่งขวาแทงเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปทิ่มหนีตัว อารอน แรมส์เดล หลุดเสาแรกอย่างน่าผิดหวัง
นาทีที่ 42 ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากจังหวะทางฝั่งซ้าย ดิโอโก้ โชต้า สอดเข้าเขตโทษตบหักเข้าในให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตั้งเท้าชาร์จโดนไม่เต็มปลิ้นเข้ากรอบ 6 หลาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บงานไม่พลาด
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+4 อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ขยับมาเชื่อมทาง
ขวาตักเข้าเขตโทษข้ามมาเสาไกลถึง ดิโอโก้ โชต้า ตบเข้าในติด อารอน แรมส์เดล ปัดมาเข้าทาง หวดสวนตามน้ำเหินข้ามคาน
หมดครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล 1 อาร์เซน่อล 2
เริ่มครึ่งหลัง 5 นาที “หงส์แดง” เดินเครื่องลุยแหลก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายได้โอกาสซัดก็ยังไม่ดีพอให้ อารอน แรมส์เดล ต้องออกแรงยิงหลุดเสาแรกเหมือนเดิม
นาทีที่ 53 ลิเวอร์พูล พลาดตีเสมออีกรอบ ร็อบ โฮลดิ้ง เสียเหลี่ยมแซะ ดิโอโก้ โชต้า ร่วงลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชี้เป็นจุดโทษทันทีแต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารลูกนี้หลุดออกหลังเหลือเชื่อ
3 นาทีต่อมาคราวนี้เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แหวกขึ้นมาทางซ้ายยกเข้าเขตโทษข้ามมาเสาไกลถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โยกหนีบล็อคได้ช่องปั่นด้วยซ้ายติดเซฟ อารอน แรมส์เดล นิดเดียว
นาทีที่ 74 อาร์เซน่อล หวิดปิดกล่อง กาเบรียล มาร์ติเนลลี ใช้ความเร็วหนีขึ้นมาทางซ้ายดีดไซค์ก้อยข้ามไปเสาไกลหวิดถึง บูกาโย ซาก้า แต่ต้องชม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตามมาบล็อคช่วยเอาไว้ได้ทัน
จากจังหวะต่อเนื่องโอกาสซัดตรงกรอบครั้งแรกช่วง ครึ่งหลัง ของทีมเยือนได้จาก มาร์ติน โอเดการ์ด ตั้งป้อมปั่นด้วยซ้ายหน้ากรอบ 18 หลาก็ยังเบาไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์
นาทีที่ 81 ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องต่อเนื่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตวัดบอลเร็วออกซ้ายให้ ดาร์วิน นูนเญซ ใช้ความเร็วพาแหวกเข้าเขตโทษแต่จังหวะซัดก็ยังไม่ผ่าน อารอน แรมส์เดล ออกมาขวางได้ทัน
4 นาทีต่อมาจากลูกเตะมุมทางขวา บูกาโย ซาก้า ครอสบอลเข้าเขตโทษโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัวโขกแบบไร้ตัวประกบไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ อย่างน่าเสียดาย
ต่อมานาทีที่ 87 “หงส์แดง” ตามตีเสมอ 2-2 อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตามมาเก็บบอลทางขวาแตะลอดขา โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยกข้ามมาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลอยมาโขกในกรอบ 6 หลาตุงตาข่าย
ไม่หนำใจนาทีที่ 90+4 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตามมาเชื่อมบอลทางซ้ายก้มหน้าตักเข้าเขตโทษข้ามมมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สลัดตัวประกบมาทิ้งตัวชาร์จปลิ้นข้ามคานเหลือเชื่อ
นาทีต่อมา เจ้าถิ่น โหมไม่หยุด อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แทงเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอียงตัวปั่นด้วยซ้ายแฉลบย้อยหวิดเสียบสามเหลี่ยมติดปลายนิ้ว อารอน แรมส์เดล นิดเดียว
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+6 ลิเวอร์พูล ได้เสียวส่งท้าย ดาร์วิน นูนเญซ สอดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายโขกชงถวานพานเข้ากรอบ 6 หลาข้ามมาให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ ชาร์จด้วยอกก็ยังติด อารอน แรมส์เดล ตบออกมาจากบนเส้น
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล 2 อาร์เซน่อล 2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป
สำรอง : ควิวีน เคลเลเฮอร์ ,ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์, ดาร์วิน นูนเญซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, คอสตาส ซิมิกาส
อาร์เซนอล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล – เบน ไวท์, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาคา – บูกาโย ซาก้า, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี
สำรอง : แมตต์ เทอร์เนอร์, จอร์จินโญ่, ยาคุป คิวิออร์, เอมิล สมิธ โรว์, คีแรน เทียร์นี่ย์, เลอันโดร ทรอสซาร์, ฟาบิโอ วิเอร่า, รีอูลล์ วอลเตอร์ส
.