เอลเลียตต์ซัด90+1! หงส์ แซงดับ พาเลซ 2-1 ขึ้นจ่าฝูง
.
ลิเวอร์พูลแซงชนะคริสตัล พาเลซที่เหลือสิบคน ขยับขึ้นนำจ่าฝูงแล้ว
.
.
.
พรีเมียร์ลีก 2023-24 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 16 เป็นการพบกันระหว่าง คริสตัล พาเลซ เปิดรังเหย้า เซลเฮิร์ทส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น จอร์แดน อายิว, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ และ เจฟฟรีย์ ชลุปป์
ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน โดยใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ
ครึ่งแรกนาทีที่ 30 ผู้ตัดสินเป่าให้ฝั่งของพาเลซได้จุดโทษ จากจังหวะที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปสกัดใส่ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ จนล้มลงไป ทว่าหลังจากเช็ค VAR ก็พบว่ามีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ วาตารุ เอนโด ไปโดน วิลล์ ฮิวจ์ส ตัดฟาวล์เสียก่อน ทำให้มีการยกเลิกทั้งจุดโทษและใบเหลืองของ ฟาน ไดค์ ไปด้วย ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกด้วยผลเสมอ 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 57 ผู้ตัดสินเช็ค VAR จังหวะที่ ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า ไปโดน จาเรลล์ ควอนซาห์ เตะสกัดขาจนล้มลงไป ก่อนจะชี้ขาดให้พาเลซได้จุดโทษ ก่อนจะเป็น ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเองไม่พลาด ส่งให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0
ทว่านาทีที่ 75 พาเลซต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ จอร์แดน อายิว ไปตัดฟาวล์ใส่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ บริเวณกลางสนาม จนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป
กระทั่งนาทีที่ 76 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ไหลบอลในเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายแฉลบ นาธาเนียล ไคลน์ เปลี่ยนทางเข้าไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+1 กลายเป็นลิเวอร์พูลมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลากแหวกแนวรับพาเลซไปยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษอย่างเด็ดขาด ช่วยฝห้ทีมเยือนแซงนำ 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนน ขยับขึ้นไปนำจ่าฝูง ก่อนที่อาร์เซนอลจะลงเตะในคืนช่วง 0.30 น. ส่วนคริสตัล พาเลซอยู่อันดับ 14 ยังมี 16 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : แซม จอห์นสตัน (เรมี แม็ทธิวส์ น.87); โจเอล วอร์ด, โยอาคิม แอนเดอร์เซน, มาร์ค เกฮี, นาธาเนียล ไคลน์; วิลล์ ฮิวจ์ส (เดวิด โอโซห์ น.90+5), คริส ริชาร์ดส์, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา (ไมเคิล โอลิเซ น.68); จอร์แดน อายิว, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ (ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า น.46), เจฟฟรีย์ ชลุปป์ (นาอุยรู อฮามาด้า น.84)
สำรองไม่ได้ใช้ : เจมส์ ทอมกิ้นส์, มาเธอุส ฟรานซา, ไยโร รีเดอวัลด์
ใบเหลือง – โจเอล วอร์ด น.37, จอร์แดน อายิว น.60, น.75, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา น.64, คริส ริชาร์ดส์ น.71, โยอาคิม แอนเดอร์เซน น.90+8, นาอุยรู อฮามาด้า น.90+12
ใบแดง – จอร์แดน อายิว น.75 (สองใบเหลือง)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จาเรลล์ ควอนซาห์ (อิบราฮิมา โกนาเต้ น.57), เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส; โดมินิค โซโบสไล (เคอร์ติส โจนส์ น.74), วาตารุ เอนโด (โจ โกเมซ น.46), ไรอัน กราเฟนแบร์ก (โกดี้ คักโป น.57); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.74), หลุยส์ ดิอาซ
สำรองไม่ได้ใช้ : เบน โด๊ค, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, คอเนอร์ แบรดลีย์
ใบเหลือง – โจ โกเมซ น.90+9, หลุยส์ ดิอาซ น.90+10
ขอบคุณที่มา goal.com
.